ทำความรู้จัก Evergreen Content คอนเทนต์เหนือกาลเวลา ที่แบรนด์ออนไลน์ควรทำ!
ในช่วงเวลาที่คอนเทนต์กลายเป็นสิ่งสำคัญในการดึงลูกค้าให้เข้ามาสนใจในสินค้าหรือแบรนด์มากขึ้น การมีคอนเทนต์ที่ตามทันกระแสจึงกลายเป็นความนิยมของแบรนด์ แต่การมีคอนเทนต์ที่สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา ไม่หมดความนิยม และยังคงสร้าง Traffic ให้เราได้ ก็เป็นสิ่งที่แบรนด์ควรทำด้วยเช่นกัน วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับคอนเทนต์ที่กำลังพูดถึง หรือที่เรียกว่า Evergreen Content กันค่ะ
Evergreen Content คืออะไร
Evergreen คือคอนเทนต์ที่ยังคงมีความเกี่ยวข้องกับผู้อ่านอยู่เสมอ โดยไม่มีเรื่องของระยะเวลามาเป็นตัวจำกัด ตัวอย่างเช่น วิธีการทำพาสต้า, แนวคิดการทำคอนเทนต์เพื่อ SEO ซึ่งเป็นคอนเทนต์ที่ไม่ได้เฉพาะเจาะจงถึงข้อมูลของแบรนด์ แต่เป็นข้อมูลที่ผู้คนจะให้ความสนใจได้ตลอดเวลา
ประโยชน์ของคอนเทนต์ประเภทนี้
1. เพิ่มปริมาณผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้สม่ำเสมอ
เนื่องจากคอนเทนต์ประเภทนี้ มักจะอยู่ในความสนใจของผู้คนตลอดเวลา ทำให้สามารถสร้างฐานผู้เข้าชมได้อย่างสม่ำเสมอ
จากภาพกราฟด้านบน จะเห็นว่าคอนเทนต์ประเภท Time-Sensitive นั้นจะได้รับการตอบรับที่ดีในช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้วจบไป แต่สำหรับคอนเทนต์แบบ Evergreen ที่แม้จะไม่ได้รับความนิยมสูงในช่วงแรก แต่จะสามารถสร้าง Traffic การเข้าชมที่สม่ำเสมอได้ในระยะเวลาที่ยาวนาน
2. หยิบมาใช้งานได้ตลอด ไม่มีข้อจำกัดด้านเวลา
Evergreen Content เป็นคอนเทนต์ที่แบรนด์สามารถนำมาแชร์ซ้ำได้ตลอด เพราะไม่มีข้อจำกัดด้านเวลา หรือกระแสความนิยมมาตีกรอบการใช้งาน
3. สร้างภาพลักษณ์ความเชี่ยวชาญให้กับแบรนด์ได้
การสร้างคอนเทนต์ในรูปแบบนี้ จำเป็นต้องทำข้อมูลที่ละเอียดและครบถ้วน จึงจะสามารถสื่อถึงความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี ยิ่งเนื้อหามีความเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจของแบรนด์ ก็จะยิ่งสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์มากขึ้น
วิธีการสร้างคอนเทนต์แบบ Evergreen
1. กำหนดกลุ่มเป้าหมายของผู้รับสาร
กำหนดว่ากลุ่มเป้าหมายของคอนเทนต์ที่เรากำลังจะสร้างนั้นคือใคร และเขาสนใจอยากรู้เรื่องอะไรบ้าง โดยกลุ่มเป้าหมายของคอนเทนต์ ควรเป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกันกับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์
2. ค้นหาหัวข้อคอนเทนต์ประเภท Evergreen
แบรนด์สามารถเลือกค้นหาคำจากการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ในการดูว่า คีย์เวิร์ดไหนที่กำลังถูกพูดถึง หรือคำไหนที่มีแนวโน้มการค้นหาเยอะ หรือดูจากคู่แข่งว่ามีการพูดถึงเรื่องอะไรอยู่ และศึกษาว่าเขาพูดถึงเรื่องนั้น ๆ อย่างไรบ้าง เพื่อหาข้อมูลมาเสริมความเข้าใจในเนื้อหา ทำให้เข้าใจมากขึ้น หรืออุดช่องโหว่ที่อาจยังไม่ครบถ้วน
3. สร้างคอนเทนต์ที่มีรายละเอียดและข้อมูลที่ครบถ้วน
สำหรับคอนเทนต์ประเภทนี้ ควรมีความยาวอยู่ที่ 300 ตัวอักษรขึ้นไป (ในที่นี้หมายถึง ภาษาไทย ที่นับด้วย WordPress) หรือหากนับด้วยโปรแกรม Microsoft Word จะอยู่ที่ 800 ตัวอักษรขึ้นไป ซึ่งในความเป็นจริงแล้วสิ่งที่เราควรคำนึงมากกว่าความยาวของบทความ คือการรวบรวมรายละเอียดที่ครบถ้วน ครอบคลุม เพื่อให้เป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้รับสารหรือกลุ่มเป้าหมายของเรา
4. สร้างคอนเทนต์ตามหลัก SEO
แบรนด์ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการทำ SEO และปรับแต่งเนื้อหาให้เป็นตามหลักนั้น เพราะจะช่วยให้คอนเทนต์ของเรามีโอกาสติดอันดับต้น ๆ ของผลลัพธ์การค้นหาบน Google ได้ง่ายขึ้น (ดูแนวทางการปรับแต่งคอนเทนต์ให้ถูกหลัก SEO ที่นี่)
5. หลีกเลี่ยงการใช้ข้อมูลด้านเวลาที่จะกำหนดอายุของคอนเทนต์
เนื่องจากการเขียนคอนเทนต์ประเภทนี้ไม่ควรมีเรื่องของกรอบระยะเวลาเข้ามาเกี่ยว ดังนั้นจึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเขียนข้อมูลที่จำกัดเฉพาะช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง เช่น โปรโมชั่นประจำเดือน เป็นต้น แต่หากจะใช้เรื่องเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็ควรเป็นช่วงเวลาที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ เป็นประจำ เช่น เทศกาลต่าง ๆ – วันปีใหม่, วันวาเลนไทน์, วันสงกรานต์ เป็นต้น
ติดตามคอนเทนต์ หมั่นตรวจสอบอยู่เสมอ
1. ตรวจสอบปริมาณการเข้าชม และผลลัพธ์การจัดอันดับ
หลังจากที่เขียนคอนเทนต์ไปแล้ว แบรนด์ควรหมั่นตรวจสอบว่า มีคนเข้าชมคอนเทนต์มากน้อยแค่ไหน หรือมีผลลัพธ์การค้นหาอยู่ในระดับใด เพื่อนำข้อมูลมาพิจารณาว่าคอนเทนต์ของเราดีกว่า หรือแย่กว่าคอนเทนต์อื่น ๆ ในคีย์เวิร์ดเดียวกัน หรือเรื่องเดียวกัน จะได้นำข้อมูลเหล่านั้นมาวางแผนในการปรับปรุงคอนเทนต์ให้ดีขึ้น
2. ปรับแก้เนื้อหาให้ทันสมัยอยู่เสมอ
เพื่อให้คอนเทนต์ของเราใช้งานได้ทุกช่วงเวลา แบรนด์จึงควรปรับแต่งคอนเทนต์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ เมื่อมีการอัพเดทข้อมูลใหม่ ๆ เข้ามา ก็ควรเพิ่มเติมข้อมูลเหล่านั้นลงไปในบทความของเราด้วย
3. นำเนื้อหาบางส่วนไปใช้ประโยชน์ เพื่อดึงดูดผู้เข้าชมใหม่ ๆ
เนื่องจากการทำ Evergreen Content มีรายละเอียดและหัวข้อที่ถูกรวบรวมไว้มากมาย เราจึงสามารถนำหัวข้อย่อย ๆ เหล่านั้น มาสร้างเป็นคอนเทนต์บน Social Media เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ให้เข้ามายังคอนเทนต์ของเราได้ด้วย
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวของ Evergreen Content ที่เรานำมาฝากแบรนด์ออนไลน์ให้ได้ทำความรู้จัก และศึกษาเพื่อเป็นแนวทางในการทำคอนเทนต์ต่อไปนั่นเองค่ะ
อ้างอิง